เบาหวานมีอาการอย่างไร เป็นแล้วต้องทำตัวอย่างไร

เบาหวาน diabetes  เกิดจากการที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนอินซูลินผิดปกติ ทำให้อินซูลินส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงเกินความจำเป็นจนเป็นต้นเหตุของเบาหวาน

อินซุลินคืออะไร

หลายคนอาจสงสัยว่า อ้าว แล้วอินซุลินคืออะไร อินซูลินก็คือ ฮอร์โมนที่สร้างขึ้นมาจากตับอ่อน มีหน้าที่เผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและไขมัน และจะนำน้ำตาลในกระแสเลือดเข้าสู่เซลล์ของอวัยวะต่างๆ ของร่างกายเพื่อไปใช้เป็นพลังงานต่อไป  แล้วในกรณีที่ตับอ่อนไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เลยหรือสามารถผลิตได้น้อยล่ะเราจะเป็นยังไง ตอบ… ก็จะทำให้น้ำตาลตกค้างอยู่ที่กระแสเลือด นั่นก็จะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงขึ้นจนกลายเป็นโรคเบาหวาน

อาการของคนที่เป็นเบาหวาน

ลองมาสังเกตุตัวเองหรือคนรอบข้างจากอาการต่างๆ ข้างล่างเหล่านี้กันค่ะ

  1. ปัสสาวะบ่อยขึ้นทั้งกลางวันและกลางคืน
  2. ดื่มน้ำมาก กระหายน้ำมาก
  3. เหนื่อยง่าย อ่อนเพลียง่าย
  4. น้ำหนักลดลงผิดปกติ
  5. เบื่ออาหาร
  6. ผิวหนังแห้งและมีอาการคัน
  7. อาจมีอาการชาแปลบๆ ที่ปลายเท้าหรือที่เท้า
  8. แผลหายช้า

ใครบ้างที่จะมีความเสี่ยงเป็นเบาหวานได้

  1. ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปทุกเพศทุกวัย
  2. พันธุกรรม – ผู้ที่มี พ่อ แม่ พี่น้องท้องเดียวกันเป็นเบาหวาน จะมีโอกาสเป็นเบาหวานสูงกว่าคนทั่วๆไป
  3. คนอ้วน น้ำหนักเกินมาตรฐาน
  4. ผู้ที่ขาดการออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายจะเป็นกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายเผาผลาญน้ำตาลในเลือดได้ดี
  5. ผู้ที่เป็นไขมันในเลือดสูง

แนวทางในการรักษาเบาหวาน

การรักษาเบาหวาน ผู้รักษาต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การลดอาหาร ลดน้ำตาล หรือ ลดน้ำหนัก  ควบคู่กันไปกับการใช้ยาควบคุมโรค (ตามความดูแลของแพทย์) และโรคร่วมหรือโรคแทรกซ้อนต่างๆ

วิธีป้องกันโรคเบาหวาน

  1. ควบคุมอาหาร รับประทานอาหารให้พอเหมาะพอควรในแต่ละมื้อ ควรหนักอาหารไปทางผัก ถั่วหรือธัญพืช งดหรือหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดที่มีน้ำตาลสูงๆ เช่น น้ำอัดลม ขนมหวาน หรือผลไม้รสหวานจัด เช่น เงาะ ลิ้นจี่ ทุเรียน องุ่น ฯลฯ
  2. ออกกำลังกายเป็นประจำ การออกกำลังกายเป็นประจำจะทำให้ระดับแป้งและน้ำตาลในเลือดลดลง
  3. อย่าให้อ้วนลงพุง
  4. ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ และ ไม่สูบบุหรี่

♡♡♡

ถ้าใครยังไม่อยากเป็นเบาหวาน โรคที่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์และต้องกินยาไปตลอดชีวิต คงต้องดูแลตัวเองกันหน่อยนะคะ  ส่วนถ้าใครสงสัยตัวเองหรือคนรอบข้าง เพราะอาการใกล้เคียงกับที่กล่าวมาแล้วข้างต้น  ก็จงรีบไปหาหมอเถอะค่ะ  ไปหาแต่เนิ่นๆ จะได้รู้วิธีการดูแลตัวเองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อะไรที่เป็นหนักจะได้ดีวันดีคืน…นะคะ ♡

please comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *