ไปเที่ยวดูใบไม้เปลี่ยนสีใกล้ๆโตเกียวได้ที่ไหนบ้าง

อีกสักเดือนกว่าๆ สองเดือน ญี่ปุ่นก็จะเข้าฤดูใบไม้ร่วงกันอีกแล้ว เพื่อนๆ หลายๆคนคงเตรียมตัวมาเที่ยวญี่ปุ่นกันค่อนข้างเยอะ ช่วงนี้เงินเยนก็ถูก ตั๋วเครื่องบินหลายๆสายก็ลดราคาแข่งกัน สวรรค์ของนักเดินทางเลยค่ะ  ♡

(ไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงนี้ พกแจ็คเก็ต หรือ เสื้อกันหนาวไปกันได้แล้วนะคะ เพราะอากาศเริ่มเย็นขึ้นๆ ล่ะค่ะ กลางวันไม่ค่อยเท่าไร แต่พอพระอาทิตย์ตกดินแล้ว…สำหรับคนที่ไม่ชอบหรือไม่คุ้นชินกับอากาศเย็นนัก มันจะหนาวมากๆๆ )

ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับคำภาษาญี่ปุ่นกันก่อนค่ะ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า โคโย่ (紅葉) เป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นแดงเหลืองส้มเขียวสลับสีกันสวยงาม คำว่า 紅葉 ตัวคันจิตัวนี้ อ่านได้ 2 แบบค่ะ จะอ่านว่า โคโย่ หรือ โมมิจิ

หลายๆ สวนสาธารณะในญี่ปุ่น หรือ ตามสถานที่ท่องเที่ยว เช่น นิกโก้ เกียวโต ฯลฯ จะหนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว ทัวร์หลายๆ ทัวร์ทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับ หรือ แบบค้างคืนไปนอนแช่อองเซ็นด้วยถูกจองเต็ม เราเองได้มีโอกาสไปกับทัวร์ญี่ปุ่นด้วย 2-3 ครั้ง สนุกดีค่ะ แต่เวลาเร่งรีบไปหน่อย คนญี่ปุ่นมีระเบียบวินัยเรื่องเวลาและความรับผิดชอบดีมากๆ ไกด์นัดเวลากี่โมงๆ ก็ตรงเป๊ะๆ กันไม่ค่อยมีใครมาสาย ♡

แต่ถ้าใครไม่มีเวลาไปต่างจังหวัด มีโอกาสได้แวะไปเที่ยวแค่โตเกียวเท่านั้น ใกล้ๆ โตเกียวก็มีที่เที่ยวสวยๆ ให้ดูโคโย่เหมือนกันค่ะ มาดูกันค่ะว่ามีที่ไหนไม่ไกลจากโตเกียวให้เราได้ไปชื่นชมธรรมชาติสวยๆ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีแบบไปเช้าเย็นกลับกันได้บ้าง

Showa Kinen Ko-en

สวนสาธารณะโชวะคิเน็น (国営昭和記念公園 อ่านว่า โคคุเออิโชวะคิเน็นโคเอ็น … คำว่า โคคุเออิ หมายถึง การบริหารงานโดยรัฐ ส่วนคำว่า โคเอ็น หมายถึง สวนสาธารณะ) อยู่ที่เมืองทาชิคาวะ โตเกียว  คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเรียกสั้นๆว่า โชวะคิเน็นโคเอ็น – Showa Kinen Ko-en

สวนสาธารณะแห่งนี้ ไม่เคยทำให้หลายๆ คนที่ไปเที่ยวผิดหวังเลย เพราะไม่ว่าคุณจะไปฤดูไหน หนาว ร้อน ฝน ที่สวนสาธารณะแห่งนี้ก็จะมีดอกไม้สวยๆ งามๆ หลากหลายพันธุ์ รวมทั้งบรรยากาศสวนญี่ปุ่นสวยๆ รอให้หลายๆ คนได้เข้าไปแวะเวียนทักทายได้ตลอดปี

อย่างช่วงโคโย่ ก็จะมีทั้งต้นแปะก๊วย ที่เราเอาเม็ดมาทานกับน้ำเชื่อม เมื่อตอนใบใกล้ร่วงใบมันจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองๆทั้งต้น และยังมีใบโมมิจิ (ใบเมเปิล) เปลี่ยนสีเป็นสีแดง สีส้ม สวยๆ ส่วนช่วงซากุระบาน ที่นี่ก็มีต้นซากุระมากมายให้ไปชมความสวยงามกันได้เหมือนกัน และในระหว่างเดินท่องเที่ยวในสวน ถ้าใครเดินกันไม่ไหว ทางสวนสาธารณะเขามีรถรางวิ่งบริการในสวนด้วย ….

นอกจากนั้น ที่สวนแห่งนี้ยังอนุญาติให้น้องหมาเข้าไปเดินเล่นได้ด้วย (ไม่ต้องเสียเงินค่าเข้า แต่สำหรับเจ้าของต้องเสียคนละ 400 เยน) และที่นี่ก็ยังจัดให้มีบริเวณเฉพาะสำหรับน้องหมา ให้น้องหมาได้เดินได้วิ่งได้สนุกกับเพื่อนๆ หลากพันธุ์ต่างวัยอย่างอิสระเสรี ไม่ต้องใส่โซ่คล้องคอด้วย แต่ถ้าน้องหมาของเราถ่ายหนัก เราก็ต้องเก็บเอาไปทิ้งในห้องน้ำ ห้ามปล่อยทิ้งเลอะเทอะไว้แบบนั้นนะคะ …

การเดินทางไป : จากสถานีรถไฟชินจูกุ นั่งรถไฟสายสีส้ม หรือที่เรียกว่า Chuo Line (Ome Express) ไปลงที่สถานี Nishi Tachikawa หรือ นั่งรถไฟสายสีส้ม Chuo Line ไปลงที่สถานีทาชิคาวะ แล้วเดินต่อไปจากสถานีนี้ หรือ อาจจะเรียกแท็กซี่ไปก็ได้

Okutama

หลายๆคนอาจไม่ทราบว่า ไม่ไกลโตเกียวนัก ที่ที่เราสามารถเดินทางไปเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับได้ จะมีอุทยานแห่งชาติด้วย เราเรียกบริเวณนั้นว่า ทะเลสาบโอคุทามะ 奥多摩湖 (อ่านว่าโอะคุทามะโคะ) ตั้งอยู่ในเขต Chichibu Tama Kai National Park

ทะเลสาบโอคุทามะ อยู่บริเวณปลายสุดของโตเกียวทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 225.63 ตารางกิโลเมตร (เทียบได้เท่ากับประมาณ 1 ใน 9 ของพื้นที่ทั้งหมดของโตเกียว) พื้นที่ส่วนใหญ่จะถูกแบ่งแยกออกจากกันโดยภูเขาหลายๆ ลูกที่เรียงรายโดยรอบ และ แม่น้ำทามะที่ไหลเข้าสู่กลางเมืองโดยไหลมาจากจากด้านทิศตะวันตกเข้าสู่ด้านทิศตะวันออก

ต้นกำเนิดของเมืองโอะคุทามะ : เมื่อปีโชวะ 30 หมู่บ้านโคริ (Kori Village), เมืองฮิคาวะ (Hikawa Town) และ หมู่บ้านโอะโกจิ (Ogochi Village) ทั้ง 3 หมู่บ้านได้รวมตัวกันกลายเป็นเมืองๆ หนึ่งชือเมืองโอะคุทามะ ส่วนชื่อโอะคุตามะ มีต้นกำเนิดมาจากทะเลสาบโอะคุทามะซึ่งถือว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของแม่น้ำทามะ ดังนั้นในช่วงต้นๆ ของยุคโชวะนั้น โอะคุทามะจึงนับได้ว่าเป็น 1 ใน 100 สถานที่ที่น่าชมที่สุดของญี่ปุ่นในช่วงนั้น

ทะเลสาบโอคุทามะ ตั้งอยู่บนเขื่อนกั้นน้ำโอะโกจิ (Ogochi) หรือที่รู้จักกันในนามอ่างเก็บน้ำโอะโกจิ มีความสูง 149 เมตร ความยาว 253 เมตร และบริเวณที่ลึกที่สุดจะมีความลึกเป็น 142 เมตร

นอกจากทะเลสาบที่มีที่ให้เดินชมนกชมไม้กว้างใหญ่เดินจนเมื่อยแล้ว บริเวณไม่ไกลจากแถวนั้น ก็จะมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ให้เราได้เข้าไปชมด้วย และยิ่งถ้าเป็นช่วงซากุระหรือช่วงโคโย่ (ใบไม้เปลี่ยนสี) ก็จะมีใบไม้ดอกไม้สวยๆ ให้เราได้เดินชมตลอดสองข้างทางที่เราเดิน จริงๆ แล้วทะเลสาบโอคุทามะเป็นสถานที่ที่สวยแห่งหนึ่ง แต่ติดว่าไกลจากสถานีไปหน่อย ต้องนั่งรถบัสเข้าไปอีกประมาณ 15-20 นาที ซึ่งถ้าเข้าไปเที่ยวที่นี่ น่าจะต้องใช้ทั้งวันในการเดินเที่ยวเล่น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลยไม่ค่อยได้เข้าไปกันมากนัก

การเดินทาง :
1. จากสถานีรถไฟชินจูกุ นั่งรถไฟสายสีส้ม หรือที่เรียกว่า Chuo Line มาลงที่สถานี Tachikawa แล้วเปลี่ยนรถไฟเป็นสาย Ome ไปลงที่สถานี Okutama เลย หรือ
2. ถ้าสามารถเจอรถไฟสาย Ome Express (รถไฟสีส้ม) จากสถานีชินจูกุได้ ก็นั่งยาวไปลงที่ สถานี Okutama ได้เลย

Takao

ภูเขา Takao ได้ยินคนไทยหลายคนเรียกว่า ทาเกา แต่ภาษาญี่ปุ่นอ่านว่า ทาคาโอะ อ่านเร็วๆ เลยรวบเสียงเป็น ทาเคา ที่นี่อยู่ไม่ไกลโตเกียวเลย เดินทางออกมาจากขินจูกุในกรุงโตเกียวอย่างเร็วประมาณแค่ 50 นาทีเท่านั้น

ที่นี่ไม่ได้มีแค่ธรรมชาติสวยงามอย่างเดียว ยังมีบริเวณให้เดินป่าเดินเขาชมธรรมชาติ จินจาหรือศาลเจ้าที่มีอายุนานนับพันปีให้สักการะ และนอกจากนี้ ช่วงซากุระบานที่นี่ก็สวย ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ก็สวย ดังนั้น ถ้าเป็นหน้าเทศกาลซากุระหรือใบไม้เปลี่ยนสี คนจะค่อนข้างมาก เพราะจะมีการออกร้านขายของ ของกินต่างๆ มากมาย คล้ายๆ บรรยากาศงานวัดญี่ปุ่น

ถ้าใครชอบเดินป่าสำรวจธรรมชาติที่นี่ก็มีรูทยาว รูทสั้นนำเสนอเส้นทางให้ได้เดินกัน และถ้าวันไหนอากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส ที่นี่สามารถมองเห็นวิวของภูเขาไฟฟูจิกันได้ด้วย

การเดินทาง :
1. จากสถานีรถไฟชินจูกุ นั่งรถไฟสายสีส้ม หรือที่เรียกว่า Chuo Line มาลงที่สถานี Takao แล้วเปลี่ยนรถไฟเป็นสาย Keio Takao มาลงที่สถานี Takaosanguchi (ทาเกาซันกุจิ) หรือ
2. รถไฟสาย Keio Limited Express จากสถานีชินจูกุ มาลงที่สถานี Takaosanguchi (ทาเกาซันกุจิ) ได้เลย

♡♡♡

นอกเหนือจากสถานที่ที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ถ้าเรามีเวลาได้เดินทางออกไปยังต่างจังหวัด ไม่ว่าจะใกล้ไกลแค่ไหน ญี่ปุ่น ยังมีสถานที่อีกมากมายให้เราได้เลือกชมโคโย่ทั้งนั้น  เลือกเอาสักที่แล้ววางแผนการท่องเที่ยวดีๆ ค่ะ

please comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *