ช่วงนี้บ้านเราเริ่มคลายร้อนกันไปได้หน่อย เพราะฝนเริ่มเทลงมาติดๆๆ กันหลายวัน จนหลายพื้นที่น้ำท่วมกันไปมากมาย หลายๆ คนค่อยหายวิตกกังวลกับปัญหาภัยแล้งกันไปได้ด้วยเหมือนกัน แต่ใครจะรู้ว่า บ้านเราร้อนๆ แบบนี้ ฝนตกหนักพายุลมแรงขนาดนี้ ญี่ปุ่น ร้อนกว่าบ้านเรา และเวลามีพายุ ญี่ปุ่นก็มีพายุลมแรงมากกว่าบ้านเรามากมายนัก ….
ปรับตัวให้คุ้นชิน
อย่างที่เคยบอกค่ะว่า เราเองอยู่ญี่ปุ่นมาเป็นสิบๆ ปี อะไรๆ ก็คุ้นชินกับทางญี่ปุ่นซะเป็นส่วนใหญ่ การต้องกลับมาอยู่เมืองไทย ทำให้ต้องปรับตัวปรับใจให้มาคุ้นชินกับอะไรใหม่ๆ อยู่บ้าง เช่น ถนนหนทาง จะให้ไปไหน ขับรถเองไปไม่ถูกเลยค่ะ อีกอย่าง กลัวมากกับการต้องขับรถในเมืองไทย ที่อื่นยังไม่ค่อยเท่าไร แต่ในกรุงเทพฯ นี่สิ… โหหห มอเตอร์ไซค์พันหน้าพันหลังพันหัวพันท้ายไปหมด ขับไปไหนไกลไม่ได้เลยค่ะ ได้แค่ในรัศมีบ้านตัวเอง 2-3 กิโลไม่เกินกว่านั้น 55555
อากาศ ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่เราเองก็ต้องปรับตัว อยู่ที่ญี่ปุ่นใส่แขนยาวซะ 8 เดือน (กลับมาเมืองไทย ได้ใส่แขนยาวถึง 8 วันหรือเปล่าไม่แน่ใจเลย) ไม่ว่าจะแขนยาวแบบผ้าหนาบ้าง แขนยาวแบบผ้าไม่หนาบ้าง …. ช่วงอากาศเย็นๆ ของญี่ปุ่นจะเริ่มช่วงปลายๆ เดือนกันยาค่ะ อากาศเริ่มจะเย็นลงแต่ยังไม่ถึงกับหนาว เราก็จะต้องงัดเอาเสื้อแขนยาว เสื้อคลุมผ้าไม่หนานักมาใส่ได้บ้าง ….
อากาศหนาวบ้านเขา
พอเข้าเดือนตุลา กลางๆเดือน หรือปลายๆ อากาศก็เร่ิมจะเย็นลงไปอีกหน่อย ทีนี้ก็ต้องใช้เสื้อหนาว เสื้อคลุมผ้าหนาสักนิดหรือเสื้อแจ็คเก็ตมาใส่กัน พอปลายๆ พฤศจิกา บางคนก็เริ่มเปลี่ยนเป็นโค๊ตสั้น เสื้อผ้าหนามาใส่กันบ้าง ธันวาถึงปลายกุมภา เปลี่ยนจากโค๊ตสั้นเป็นโค๊ตหนาๆ ตัวยาวๆ มาใส่กันความหนาว … ไม่ใช่ใส่กันแค่โค๊ตนะคะ ข้างในก็ต้องเป็นเสื้อไหมพรมหนากันหน่อย คอเต่าไม่เต่าแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน บางคนไม่ชอบก็หาผ้าพันคอมาห่มคลุมแทนกันได้ นอกจากนี้ ถ้าใครหนาวหนักหน่อย ก็ต้องมีหมวก มีที่ปิดหู มีถุงมือ ฯลฯ แล้วแต่ละคนจะทนกับความหนาวได้แค่ไหนอย่าง
ร้อนๆๆ ร้อนตับแลบ
มาถึงหน้าร้อนของญี่ปุ่นตามที่จั่วหัวกันบ้าง …. อากาศที่ญี่ปุ่นจะเริ่มสูงขึ้นประมาณตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนา และจะเริ่มสูงขึ้นๆๆ จนถึงสุดๆ เลยคือเดือน สิงหาคม
ช่วงเดือน กรกฏาและสิงหา เป็นช่วงที่ร้อนค่ะ ร้อนมากกกๆๆๆ เราเองไปอยู่ญี่ปุ่นหน้าร้อนปีแรก ถึงกับเป็นลมค่ะ อยู่เมืองไทยมาเป็นสิบๆ ปีไม่เคยเป็นลม และไม่รู้จักด้วยว่าเป็นลมคืออะไร เป็นยังไง เรียกว่าเป็นหญิงเหล็กคนนึงก็ว่าได้ แต่พอได้ย้ายที่ไปอยู่ญี่ปุ่น เจอร้อนปีแรก …ถึงกับเป็นลม!!!! เห็นดาวเลยค่ะ
จะว่าไป บางปีอุณหภูมิขึ้นไปสูงกว่า 40 องศาอีกนะคะ แต่ก็ไม่ได้ 40 องศาทุกวันจะมีบางวันเท่านั้นที่พี่ญี่ปุ่นแกไต่ไปถึง แต่ถึงแม้อุณหภูมิจะไม่ถึง 40 องศา อากาศก็ร้อนมากมายค่ะ เราว่าร้อนกว่าที่เมืองไทยอีกอ่ะ มันร้อนแบบ … ยังไงล่ะ ร้อนอบอ้าวแบบก่อนฝนตกน่ะค่ะ ร้อนแบบอึบๆ อบอ้าวๆ เหมือนอยากจะให้คนเป็นลม ช่วงที่ร้อนที่สุดเห็นจะเป็นช่วงเดือนสิงหาค่ะ ร้อนสุดฤทธิ์สุดเดช … เรียกได้ว่า ถ้าเดินตามถนนข้างนอกพักเดียวอ่ะ เหงื่อชุ่มอย่างกับอาบน้ำเลย
เวลาหน้าร้อนของญี่ปุ่น จะมีข่าวโทรทัศน์บ่อยๆ เตือนให้ผู้คนระวังการเป็นลมแดด (HeatStroke) และก็เห็นข่าวคนเป็นลมแดดกันอยู่ตลอดเวลา …. อยู่เมืองไทยมานาน เราไม่เคยเห็นคนเป็นลมแดด หรือ ข่าวโทรทัศน์เตือนคนให้ระวังลมแดดกันเท่าไรเลยเนอะ
ต่างบ้านต่างเมือง ดูแลตัวเองดีๆ
อย่างที่เตือนๆ ไว้ค่ะ อยู่ต่างบ้านต่างเมือง ไปไหนมาไหน ยังไงก็สังเกตุสังกาสิ่งรอบข้างไว้บ้าง เพราะเรื่องภัยธรรมชาติ เรื่องอากาศของแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน และอะไรจะเกิดเมื่อไร ไม่มีใครกำหนดได้ เช่น แผ่นดินไหว ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดเมื่อไร ถึงแม้เดี๋ยวนี้จะมีแอพฯในมือถือสามารถเตือนภัยได้ล่วงหน้าบ้าง แต่ก็แค่ 5-10 วินาทีล่วงหน้าเท่านั้น
ดังนั้นไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน เดินทางท่องเที่ยวหรือต้องไปเรียนไปอยู่นานๆ นอกจากช็อปปิ้ง หรือ ไปเรียนแล้ว ก็สนใจฟังข่าวสารรอบตัวด้วยค่ะ ที่ต่างประเทศเขาจะมีเตือนโน่นนี่นั่นกันบ่อยๆ ฝนจะตกแดดจะออกก็เตือน พายุเข้า แผ่นดินไหว สึนามิจะมา ก็เตือน …. อยู่ไกลบ้านดูแลตัวเองให้ดีที่สุดค่ะ ♡
