พูดถึงสิวสาวๆ คงขยาด ไม่มีใครอยากเป็นแน่ๆ เพราะมันทำให้ขาดความมั่นใจ แถมเมื่อเป็นแล้ว หายไปแล้ว พี่สิวของเรายังทิ้งรอยไว้อีกนานนับเดือน และเพราะมีปัจจัยหลายอย่างเป็นตัวกระตุ้น เป็นต้นเหตุให้เกิดสิว ทำให้เราเป็นแล้วเป็นอีกอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่มีผิวแพ้ง่าย โดนลมโดนฝุ่นนิดหน่อยก็เป็นสิวได้ง่ายๆ วันนี้เรามีความรู้เรื่องสาเหตุของการเกิดสิวมาฝากกันค่ะ คุณๆ จะได้รักษาสิวได้อยากถูกจุด และถูกวิธี เพื่อให้ปัญหาสิว เลิกมากวนใจกันสักที
Contents
สิวเกิดจาก ??
การเกิดสิวเกิดขึ้นจากต่อมไขมันที่มีการผลิตไขมันขึ้นมาเป็นจำนวนมาก และมีการอุดตันทางเดินของไขมัน จึงทำให้เกิดเป็นสิวขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นสิวหัวขาว หรือสิวหัวดำก็ได้ แต่หากเมื่อเกิดเป็นสิวแล้ว มีการติดเชื้อแบคทีเรียเพิ่มเข้าไป ก็จะทำให้เกิดการอักเสบของสิว ทำให้เป็นหนอง โดยส่วนใหญ่แล้วสิวจะขึ้นตามหน้า, หลัง หรือ หน้าอก ซึ่งนับว่าเป็นปัญหาใหญ่ของวัยรุ่นแทบทุกคนเลยก็ว่าได้
สาเหตุล่ะ มาจากไหน
จริงๆ แล้วสาเหตุของการเกิดสิว มีหลายสาเหตุด้วยกัน แต่สาเหตุหลักๆ ก็คือ
- ตัวฮอร์โมนแอนโดรเจน (androgens) ฮอร์โมนที่พบได้มากในเพศชาย แต่ก็พบได้ในเพศหญิงเช่นกัน โดยช่วงที่ฮอร์โมนแกว่งหรือฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง (ในผู้หญิง ฮอร์โมนจะแกว่งตอนที่รอบเดือนมาหรือกำลังตั้งครรภ์ ส่วนในผู้ชาย ฮอร์โมนจะพลุ่งพล่านไปตามธรรมชาติ ในช่วงวัยรุ่นหรือในช่วงเครียด ๆ)
- กรรมพันธุ์ สังเกตได้ว่าบางคนเป็นสิวไม่หายเสียที อาจด้วยเพราะโครงสร้างทางพันธุกรรมของบรรพบุรุษที่สืบทอดมาสู่ตนเองก็ได้ และสุดท้าย สาเหตุของตัวเราเอง ที่ชอบสัมผัสใบหน้า และทำความสะอาดผิวไม่สะอาดเท่าที่ควร จึงทำให้เกิดปัญหาสิวขึ้น
ชนิดของสิว
ก่อนอื่นเลย เราต้องมาทำความรู้จักกับประเภทของสิวกันก่อน เพราะสิวมีหลายประเภท ซึ่งสิวแต่ละชนิดก็จะมีวิธีการรักษาแตกต่างกันไป ได้แก่
- สิวอุดตัน สิวที่ชอบเก็บตัวอยู่กับรูขุมขนบนใบหน้า ยิ่งนานวันก็ยิ่งฝังตัวแน่น
- สิวอักเสบ สิวชนิดที่เป็นร่างแปลงของสิวอุดตัน ที่มีเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรกจากน้ำมือของเจ้าของใบหน้า
- สิวเสี้ยน นับเป็นปัญหาที่เล็กๆ แต่เมื่อไหร่ที่เราขับไล่มันไป มันก็จะทิ้งรูขุมขนกว้างไว้ทันที
- สิวผด ร้อนเมื่อไหร่ได้เจอกันทุกที ชื้นเมื่อไหร่มันก็จะมาอีก นับเป็นปัญหากวนใจอย่างมาก
การรักษาสิว
การรักษาสิวนั้นอย่างแรกคงหนีไม่พ้นเรื่องยา อยากหายเร็วๆ คงต้องไปหาหมอให้ตรวจดูวินิจฉัยต่างๆ และหมอจะให้ยาที่เหมาะสมกับชนิดสภาพผิวของคนไข้แต่ละคน อาจให้เป็นยามาทา ยามาแต้ม ยากิน ฯลฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หมอคงช่วยได้แค่ให้การวินิจฉัยและให้ยา พฤติกรรมตามมา คือสิ่งที่เราต้องมาทำด้วยตัวเอง นั่นก็คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง โดยการห้ามเอามือสัมผัสใบหน้าเด็ดขาด เพราะมือเรามีสิ่งสกปรกซุกซ่อนอยู่มากมาย
นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองแล้ว สิ่งสำคัญที่เราต้องทำควบคู่กันไปก็คือ ต้องรักษาความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ อาทิ ผ้าเช็ดหน้า ปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน รวมถึงเสื้อผ้าต่างๆ ให้สะอาดอยู่เสมอ เพราะความสกปรกเล็กๆ น้อยๆ จะนำสิวมากวนใจเราได้
นอกจากการใช้ยาและการรักษาความสะอาดแล้ว เราก็จะต้องไม่เครียด เพราะยิ่งเครียดสิวก็ยิ่งขึ้น สิ่งที่ทำได้คือใจเย็นๆ ทำใจสบายๆ ชิวๆ ห้ามใจร้อนเด็ดขาด เพราะปัญหาสิวเป็นปัญหาที่ต้องใช้เวลาในการรักษา อาจจะไม่ใช่แค่เดดือนหรือสองเดือน แต่อาจนานนับปี แต่เชื่อเถอะว่าเสียอย่างไรมันก็สามารถหายได้ เพียงแค่เราอดทนและมีความสม่ำเสมอในการรักษา สิวเป็นได้ก็หายได้นะคะ!
การเลือกใช้แอลกอฮอล์ให้เหมาะกับสภาพผิว
สาวๆ หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า เครื่องสำอางค์ หรือผลิตภัณฑ์หลายๆ อย่างที่เราใช้กันอยู่นี้ ต่างก็มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ทั้งสิ้น ได้ยินอย่างนี้แล้วก็อย่าเพิ่งวิตกกังวลไป เพราะหลายคนมีความเชื่อว่าแอลกอฮอล์จะทำให้รู้ขุมขนกว้าง ผิวแห้ง และเหี่ยวเร็ว
วันนี้เราจึงจะมาไขข้อสงสัยว่าความเชื่อที่เราเคยได้ยินมานี้จริงหรือไม่? พร้อมทั้งวิธีการเลือกใช้แอลกอฮอล์ที่เหมาะกับแต่ละสภาพผิวมาฝากกันด้วย แอลกอฮอล์ที่นำมาใช้ในเครื่องสำอางไม่ได้เป็นชนิดเดียวกับที่เรานำมาล้างแผล แต่แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- กลุ่มตัวทำละลาย เรียกว่า Fatty Alcohol ซึ่งแอลกอฮอล์ชนิดนี้ไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง มีคุณสมบัติช่วยให้เครื่องสำอางติดผิวดี ทำความสะอาดผิว ชะฟล้างสิ่งสกปรกและไขมัน มักพบในครีมหรือโลชั่น ประเภท Water in oil หรือ Oil in water
- กลุ่มฆ่าเชื้อ ได้แก่ Ethyl Alcohol ใช้เป็นส่วนผสมของยาทาผิว มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย เป็นสารกันบูด นิยมผสมในเครื่องสำอางประเภทน้ำหรือของเหลว เช่น โทนเนอร์ อีมัลชั่นบำรุงผม น้ำหอม หรือสเปรย์
การเลือกแอลกอฮอล์ให้เหมาะกับสภาพผิวอย่างเหมาะสมนั้น มีวิธีดังนี้
- ผิวแพ้ง่าย คนที่มีผิวระคายเคืองง่าย หรือ กลุ่มผิวแพ้ง่าย ต้องหลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่ผสมแอลกอฮอล์กลุ่มฆ่าเชื้อ อาการเบื้องต้นของการแพ้คือจะรู้สึกคัน มีผดผื่นแดง หรือตุ่มน้ำ ตามความรุนแรง แนะนำให้หยุดใช้เครื่องสำอางนั้นทันที
- ผิวแห้ง แนะนำให้ใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์กลุ่มตัวทำละลาย เพราะเป็นเครื่องสำอางที่ช่วยลดการสูญเสียน้ำของผิวได้
- ผิวมัน กลุ่มนี้โชคดีกว่ากลุ่มอื่น เพราะโอกาสที่จะแพ้แอลกอฮอล์มีน้อย และแอลกอฮอล์ในเครื่องสำอางจะช่วยให้ความมันบนใบหน้าลดลง
นอกจากนี้ การใช้เครื่องสำอางในขณะที่เราเป็นสิวนั้น ต้องระวังเครื่องสำอางที่มีแอลกอฮอล์กลุ่มฆ่าเชื้อ เพราะแอลกอฮอล์กลุ่มนี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้สิวอักเสบได้มากขึ้น รวมทั้ง Lanolin Alcohol จัดอยู่ในกลุ่มตัวทำละลาย ก็เป็นตัวกระตุ้นตัวหนึ่งที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดสิว
ถ้าจะถามว่า แล้วเราจะสามารถเลี่ยงการใช้แอลกกอฮอล์ในเครื่องสำอางได้หรือไม่ ตอบได้เลยว่าคงเลี่ยงได้ยาก เพราะเครื่องสำอางส่วนใหญ่จำเป็นต้องมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม เป็นตัวทำละลายให้ส่วนผสมต่างๆ เข้ากันได้ เพราะฉะนั้นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเรา ก็คือ ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีชนิดแอลกอฮอล์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวเราให้ได้มากที่สุด
ถ้าหากใครที่มีอาการแพ้ โดยที่ไม่รู้ว่าแพ้ผลิตภัณฑ์ชนิดใด หรือตัวใด ให้รีบไปปรึกษาแพทย์ให้เร็วที่สุด เพราะบางทีอาจจะเป็นการแพ้แอลกอฮอล์ แต่ไม่ใช่อาการแพ้แบบรุนแรง และถึงแม้จะแพ้ไม่รุนแรง แต่ก็ทำความรำคาญใจให้ได้ในระยะยาวเลยทีเดียว
♡♡♡
ทราบอย่างนี้แล้ว สาวๆ ควรจะต้องระมัดระวังในการเลือกเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกันเสียหน่อย จะเห็นว่าบางคนเป็นสิวหรือผื่นเม็ดเล็กๆ ไม่หายเสียที นั่นอาจจะเป็นเพราะแพ้ชนิดแอลกอฮอล์จากผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ก็เป็นได้ ดังนั้น ตัวเราเองต้องหมั่นสังเกตตัวเอง และพยายามอย่าเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้กับผิวบ่อยนัก เพราะผิวจะไม่สามารถปรับสภาพได้ทัน ใช้อันไหนดี ก็ควรใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อผลระยะยาวที่ดีกว่า